มะเร็งปากมดลูก รู้ก่อน ป้องกันได้

มะเร็งปากมดลูกเป็นอย่างไร

มะเร็งปากมดลูกมีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัสเอชพีวี (Human Papilloma Virus: HPV) โดยมะเร็งชนิดนี้มักเกิดกับผู้หญิงอายุระหว่าง 30-45 ปี ที่เคยมีเพศสัมพันธ์มาก่อน สำหรับผู้หญิงที่มีคู่นอนหลายคน มีเพศสัมพันธุ์ตั้งแต่อายุยังน้อย มีบุตรตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ หรือสูบบุหรี่ ก็อาจเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งปากมดลูกมากขึ้นได้ ทั้งนี้ มะเร็งปากมดลูกอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้หากผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องอย่างทันท่วงที

สัญญาณและอาการมะเร็งปากมดลูก

มีเลือดออกผิดปกติจากทางช่องคลอด เช่น เลือดออกหลังการมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด เลือดออกหลังวัยหมดประจำเดือน ประจำเดือนมาแบบกะปริบกะปรอย ประจำเดือนมามากหรือมานานกว่าปกติ เลือดออกหลังการสวนช่องคลอดหรือหลังการตรวจภายใน เป็นต้น
ตกขาวที่ผิดปกติ เกิดขึ้นได้ในระหว่างการมีประจำเดือนหรือหลังวัยหมดประเดือน โดยตกขาวดังกล่าวอาจมีเลือดปนอยู่ด้วย
เจ็บในขณะที่มีเพศสัมพันธ์

วิธีป้องกันมะเร็งปากมดลูก

     ผู้หญิงทุกคนสามารถลดความเสี่ยงของการเป็นมะเร็งปากมดลูกได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

     ฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มักก่อให้เกิดมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด และมะเร็งอวัยวะเพศหญิง โดยสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ตั้งแต่อายุ 9-26 ปี ซึ่งปริมาณของวัคซีนที่จะได้รับนั้นจะขึ้นอยู่กับอายุของผู้รับวัคซีน ทั้งนี้ ควรฉีดวัคซีนตั้งแต่ก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพราะจะทำให้วัคซีนจะมีประสิทธิภาพสูงสุด ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกด้วยการตรวจแป๊ปสเมียร์ (Pap Smear) เพื่อตรวจหาการเปลี่ยนแปลงของเซลล์บริเวณปากมดลูกที่อาจกลายเป็นมะเร็งได้หากไม่ได้รับการรักษาที่เหมาะสม โดยผู้หญิงควรเข้ารับการตรวจประเภทนี้เป็นประจำเมื่ออายุ 21 ปี และกลับมาตรวจซ้ำเป็นระยะ รวมถึงการตรวจหาเชื้อ HPV ซึ่งเป็นไวรัสที่อาจทำให้เซลล์บริเวณดังกล่าวเกิดการเปลี่ยนแปลงไปอีกด้วย ไม่สูบบุหรี่หรือเลิกสูบ ใช้ถุงยางอนามัยขณะมีเพศสัมพันธ์ รักเดียวใจเดียวไม่เปลี่ยนคู่นอนบ่อย และมีเพศสัมพันธ์เมื่อถึงวัยที่เหมาะสม

วิธีตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในปัจจุบันนี้มีอยู่ 3 วิธี คือ

1.วิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกแปปเสมียร์ (Pap smear) เป็นการตรวจที่แพทย์จะใช้ไม้พายเก็บเนื้อเยื่อบริเวณปากมดลูก ก่อนนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ วิธีนี้เป็นวิธีที่ใช้กันมานาน เป็นวิธีการตรวจที่ราคาไม่สูง แต่ด้านความแม่นยำอาจไม่มากนัก อยู่ที่ประมาณ 50 %

2.วิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกตินเพร็พ (ThinPrep) วิธีนี้พัฒนามาจากวิธีแปปเสมียร์ มีประสิทธิภาพและความแม่นยำอยู่ที่ประมาณ 90-95% โดยเก็บเซลล์บริเวณปากมดลูกด้วยอุปกรณ์เฉพาะ จากนั้นใส่ลงในขวดน้ำยาตินเพร็พ ก่อนส่งตรวจผลในห้องปฏิบัติการ

3.วิธีการตรวจมะเร็งปากมดลูกตินเพร็พ (ThinPrep) + การตรวจหาเชื้อไวรัสเอชพีวี (HPV DNA Test) เป็นการตรวจที่เชื่อว่าดีที่สุด เพราะเป็นการตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกร่วมกับตรวจดีเอ็นเอของเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับมะเร็งปากมดลูก ร่วมกับการเจาะลึกให้มากขึ้นว่ามีการติดเชื้อ HPV สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 หรือไม่ ซึ่งถ้าไม่มีการติดเชื้อก็สามารถมั่นใจได้ถึง 99 % ว่าในช่วง 1-2 ปีที่รับการตรวจโอกาสเป็นมะเร็งปากมดลูกจะน้อยมา

รพ.พิษณุเวช พิจิตร มีบริการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
ปรึกษาได้ที่ พญ.ศันสนีย์ พยันตา  สูตินรีแพทย์
สอบถามข้อมูลได้ที่ 056-613316 ต่อ 220