Header

มะเร็งปากมดลูกอันตรายแค่ไหน

21 พฤศจิกายน 2566

มะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของหญิงไทย ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human papilloma virus) โดยการมีเพศสัมพันธ์ อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบกับมะเร็งชนิดอื่นแล้ว มะเร็งปากมดลูก สามารถป้องกันและรักษาให้หายขาดได้ ถ้าสามารถตรวจพบ ได้เร็วในระยะก่อนเป็นมะเร็ง แต่สาเหตุสําคัญที่ทําให้โรคนี้ยังเป็นกันมากในปัจจุบัน เนื่องจากผู้หญิงส่วนใหญ่มักปฏิเสธการตรวจภายในเพื่อตรวจหาเซลล์มะเร็งปากมดลูกเพียงเพราะอายหรือไม่กล้ามาตรวจไวรัส HPV กับโรคมะเร็งปากมดลูก ปัจจุบันข้อมูลทางวิชาการบ่งชัดว่าสาเหตุหลักของการเกิดมะเร็งปากมดลูก เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV ซึ่งมีอยู่ประมาณหลายสายพันธุ์ ผู้หญิงเรามีโอกาสติดเชื้อไวรัส HPV อยู่แล้วในช่วงหนึ่งของชีวิต แต่ร่างกายสามารถกําจัดเชื้อไปได้เอง เรียกว่าติดเชื้อ แบบชั่วคราว แต่ในบางครั้งร่างกายก็ไม่สามารถกําจัดเชื้อได้โดยเฉพาะสาเหตุมาจากไวรัส HPV สายพันธุ์ที่มีความเสี่ยงสูง (โดยเฉพาะ HPV สายพันธุ์ 16 และ 18) ก็จะมีความเสี่ยงสูงที่จะก่อให้เกิดโรคมะเร็งปากมดลูกในอนาคต



  1. ตรวจหาเซลล์ผิดปกติที่ปากมดลูกหรือที่เรียกกันติดปากว่า “ตรวจ Pap smear เป็นการตรวจหาเซลล์ผิดปกติแบบดั้งเดิม สถานพยาบาลส่วนใหญ่ในประเทศไทย ใช้วิธีนี้กัน มีข้อดีคือราคาถูก แต่ปัญหาคือมีความไวของการตรวจหาเซลล์ผิดปกติ ค่อนข้างต่ํา (40 - 70%)
  2. วิธี “Thin Prep” เป็นการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกทางเซลล์วิทยาเช่นเดียวกับ Pap smear แต่เพิ่มความไวของการตรวจหาเซลล์ผิดปกติ (80 - 90%)
  3. ปัจจุบันมีการตรวจที่เรียกว่า “Thin prep plus HPV” เป็นการตรวจ Thin prep ร่วมกับ การตรวจหาเชื้อไวรัส HPV โดยตรง ซึ่งการตรวจแบบนี้จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรกได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์

ความแตกต่างระหว่าง “ Thin prep plus HPV ” และการตรวจ “Pap smear” การตรวจมะเร็งปากมดลูกแบบ “Pap smear” ปกตินั้น จะสามารถตรวจหาได้ก็ต่อเมื่อเกิดโรค แล้วเท่านั้น จึงต้องตรวจเป็นประจําทุกปี เพื่อสามารถตรวจ พบได้ตั้งแต่ในระยะเริ่มแรก แต่การตรวจด้วย “Thin prep plus HPV” เป็นการผนวกรวมของ (Thin prep + ตรวจหา เชื้อไวรัส HPV) ดังนั้น เมื่อผลการตรวจหาเชื้อ HPV และการตรวจ Thin Prep ให้ผลเป็นลบทั้งคู่ ก็จะสามารถสรุปได้ว่า ไม่มีความ เสี่ยงของมะเร็งปากมดลูกอย่างแน่นอน 100% ในระยะเวลา 3 ปี นับจากวันที่ตรวจ จึงสามารถเว้นการตรวจเป็นทุก 3 ปี แทนการตรวจทุก ๆ ปี

  • การตรวจคัดกรองครั้งแรก ควรเริ่มทําหลังจากมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกประมาณ 3 ปี หรือเมื่อถึงอายุ 21 ปี แล้วแต่ว่าเวลาใดมาถึงก่อน - กลุ่มผู้หญิงอายุน้อยกว่า 30 ปี ควรทําการตรวจคัดกรองทุกปี เพราะมีหลักฐานพบว่า กลุ่มหญิงอายุน้อยกว่า 30 ปี มีโอกาสเสี่ยง มากกว่ากลุ่มอื่นที่มีอายุมากกว่า ในการติดเชื้อ human papillomavirus (HPV) ชนิดความเสี่ยงสูงที่ก่อมะเร็ง
  • กลุ่มอายุมากกว่า 30 ปี มีสองทางเลือก
  1. ตรวจ “Pap smear” เพียงอย่างเดียว โดยทําการการตรวจปีละครั้ง
  2. ตรวจ “Thin prep plus HPV” ถ้าผลการตรวจคัดกรองปกติ (Negative) หากผลเป็นปกติ (Negative) ติดต่อกัน 3 ปี หลังจากนั้นสามารถรับการ ทั้งสองอย่าง ให้ตรวจได้ห่างขึ้นทุกๆ 3 ปี แต่ถ้าผิดปกติอย่างใดอย่างหนึ่ง ตรวจคัดกรองทุกๆ 2 - 3 ปีได้ก็จําเป็นต้องรับการตรวจบ่อยขึ้น

แพทย์แนะนำ

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

พญ.กิติยา จันทรวิถี

พญ.กิติยา จันทรวิถี

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

อายุรแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือด

นพ. ลิขิต กำธรวิจิตรกุล

ศัลยเเพทย์ออร์ปิดิกส์

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตารางการรับวัคซีนสำหรับลูกน้อย

วัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศแนวทางแนะนำปฏิบัติ เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้ เพราะเด็กเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อง่าย และอาจเกิดความรุนแรงของโรคได้ง่าย เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ควรพาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนให้ครบ และตรงตามกำหนด เพื่อสุขภาพที่ดีของลูก

ตารางการรับวัคซีนสำหรับลูกน้อย

วัคซีนพื้นฐานสำหรับเด็กตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศแนวทางแนะนำปฏิบัติ เป็นสิ่งที่พ่อแม่ควรรู้ เพราะเด็กเป็นกลุ่มเสี่ยงที่มีโอกาสติดเชื้อง่าย และอาจเกิดความรุนแรงของโรคได้ง่าย เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ควรพาลูกน้อยไปฉีดวัคซีนให้ครบ และตรงตามกำหนด เพื่อสุขภาพที่ดีของลูก

โรคมะเร็ง 5 อันดับ ที่พบบ่อยในผู้หญิง

โรคมะเร็ง 5 ที่พบบ่อยในผู้หญิง จากข้อมูลสถาบันมะเร็งแห่งชาติรายงานว่า โรคมะเร็งที่พบในผู้ป่วยรายใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก ของผู้หญิงไทย  ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งปอด มะเร็งมดลูก ซึ่งผู้หญิงทุกคนมีโอกาสเป็นได้ ถ้ารู้จักการป้องกันโรคก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้

โรคมะเร็ง 5 อันดับ ที่พบบ่อยในผู้หญิง

โรคมะเร็ง 5 ที่พบบ่อยในผู้หญิง จากข้อมูลสถาบันมะเร็งแห่งชาติรายงานว่า โรคมะเร็งที่พบในผู้ป่วยรายใหม่มากที่สุด 5 อันดับแรก ของผู้หญิงไทย  ได้แก่ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนัก มะเร็งปอด มะเร็งมดลูก ซึ่งผู้หญิงทุกคนมีโอกาสเป็นได้ ถ้ารู้จักการป้องกันโรคก็จะช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคได้